บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

พระมหาบุญไทย ปุญญมโน[01]


ผู้อ่านบางท่านเห็นผมตั้งชื่อบทความไว้ว่า “พระมหาบุญไทย ปุญญมโน” อาจจะคิดว่า พระมหาบุญไทยตายไปแล้ว

และผมจะเขียนว่าพระมหาบุญไทยตายแล้ว วิญญาณของท่านไปไหน

โปรดอย่าไปคิดอย่างนั้น  ผมไม่รู้ว่ามหาบุญไทยยังอยู่หรือตายไปแล้ว เพียงแต่ไปอ่านบทความเรื่อง “ตายแล้ววิญญาณไปไหน” ใน "ไซเบอร์วนาราม.เน็ต เว็บไซต์เพื่อพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรม" เลยอยากจะวิพากษ์วิจารณ์ข้อเขียนของท่านเท่านั้น

ที่ต้องมาวิพากษ์วิจารณ์ข้อเขียนของพระมหาบุญไทย ปุญญมโนก็เป็นเพราะว่า บทความของพระมหาบุญไทยชี้ให้เห็นเกี่ยวกับความเชื่อ ตลอดจนการตอบปัญหาเกี่ยวกับความเชื่อนรก-สวรรค์ที่ "ยอมรับไม่ได้"

คำว่า “ยอมรับไม่ได้ คือ ผมยอมรับไม่ได้”  คนอื่นๆ เขาอาจจะยอมรับกันได้ก็ได้  เมื่อผมยอมรับไม่ได้ก็ต้องออกมาวิพากษ์วิจารณ์เสียหน่อย พอหอมปากหอมคอ

ผมขอยกตัวอย่างบทความดังกล่าวสั้น ๆ แล้วจะวิพากษ์วิจารณ์ในลำดับต่อไป

พระมหาบุญไทย เริ่มต้นบทนำไว้ ดังนี้

ปัจจุบันคติความเชื่อเรื่องนรกสวรรค์ก็ยังมีคนลังเลสงสัย

ปัญหาหนึ่งที่คนมักจะชอบถามมากที่สุดคือคนตายแล้ววิญญาณไปไหน

พระภิกษุแต่ละรูปก็ตอบไปตามความรู้ความเข้าใจเท่าที่ได้ศึกษามาจากตำรา บางรูปพาลโกรธคนถามเสียอีก

บางรูปไม่สนใจตอบเดินหนีไปดื้อๆ ก็มี

ตราบใดที่ยังมีพระพุทธศาสนาปัญหานี้ก็ต้องถูกถามอยู่ร่ำไป

ในส่วนของเนื้อหานั้น พระมหาบุญไทยได้ยกตัวอย่างมาจากพระสูตรในทีฆนิกายมหาวรรค คือ ปายาสิราชัญญสูตร (10/301-330/234-260) และการตอบปัญหาของหลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง

ในปายาสิราชัญญสูตร พระมหาบุญไทยได้ยกตัวอย่างจากคำถามของพระเจ้าปายาสิและคำตอบของพระกุมารกัสสปะ

พระเจ้าปายาสิตรัสถามพระกุมารกัสสปะว่า ท่านสั่งญาติที่ทำความชั่วว่า ถ้าตายไปแล้ว และตกนรกขอให้กลับมาบอก

ไม่มีใครกลับมาบอกเลย แม้แต่สักคนเดียว พระเจ้าปายาสิจึงไม่เชื่อว่ามีนรก

พระกุมารกัสสปะตอบพระเจ้าปายาสิว่า พวกที่ทำความชั่วไม่ได้รับอนุญาตจากยมบาลให้มาตอบคำถามของพระเจ้าปายาสิ

พระเจ้าปายาสิตรัสถามพระกุมารกัสสปะอีกว่า ท่านสั่งญาติที่ทำความดีว่า ถ้าตายไปแล้ว และขึ้นสวรรค์ขอให้กลับมาบอก

ไม่มีใครกลับมาบอกเลย แม้แต่สักคนเดียว พระเจ้าปายาสิจึงไม่เชื่อว่ามีสวรรค์  พระองค์จึงไม่เชื่อว่ามีโลกอื่น คือ นรก-สวรรค์ไม่มี คนตายแล้วสูญ

พระกุมารกัสสปะตอบพระเจ้าปายาสิเป็น 2 ประเด็นคือ ประเด็นแรกพวกเทวดาเห็นว่า มนุษย์เป็นผู้ไม่สะอาดมีกลิ่นเหม็น ขณะนั้นกำลังเสวยสุข 

ประเด็นที่สอง เวลา 1 วันของชั้นจาตุมมหาราชิกาเท่ากับหนึ่งร้อยปีในโลก พอคิดได้จะกลับมาบอก พวกญาติก็ตายหมดแล้ว

ในส่วนที่เกี่ยวกับหลวงพ่อชา ขอยกมาทั้งหมด ดังนี้

พระเถระที่ตอบปัญหาเรื่องนี้ได้ยอดเยี่ยมอีกรูปหนึ่งคือ หลวงพ่อชา สุภัทโท แห่งวัดหนองป่าพง อุบลราชธานี

เมื่อมีคนถามว่า ชาติหน้ามีจริงหรือไม่หลวงพ่อจะย้อนถามว่า ถ้าบอกแล้วจะเชื่อไหมละ

เมื่อคนถามตอบว่า เชื่อครับหลวงพ่อก็จะตอบกลับไปว่า ถ้าเชื่อโยมก็โง่

อ่านแล้วงงไหม หลวงพ่อขยายความให้กระจ่างว่า

เรื่องแบบนี้ไม่มีหลักฐานจะนำมาพิสูจน์ให้เห็นได้ คนส่วนใหญ่จึงต้องเชื่อตามเขาว่า ไม่ได้รู้ชัดด้วยปัญญาของตนเอง โยมก็โง่อยู่ร่ำไป

ครั้งหนึ่งที่ประเทศอังกฤษคำถามอย่าเดียวกันก็ย้อนกลับมาหาหลวงพ่ออีก โยมสตรีชาวอังกฤษเข้ามาถามหลวงพ่อว่า คนตายแล้วไปไหน

หลวงมองหน้านิดหนึ่งแล้วก้มลงเป่าเทียนที่กำลังสว่างไสวอยู่ตรงหน้า เปลวไฟดับทันทีเหลือแต่ควันที่กำลังลอยอ้อยอิ่ง

พลันหลวงพ่อยิ้มที่มุมปากเอ่ยถามแหม่มคนนั้นว่า เทียนดับแล้วไปไหนแหม่มงุนงงหาคำตอบไม่ทันจึงได้แต่นั่งนิ่ง

หลวงพ่อจึงเอ่ยขึ้นว่า พอใจคำตอบหรือยังแหม่มจึงได้สติตอบอย่างเสียงกระด้างว่า ไม่พอใจ

หลวงพ่อปิดการสนทนาด้วยประโยคที่คนฟังต้องหนาวสะท้านถึงขั้วหัวใจว่า เราก็ไม่พอใจคำถามของเธอเหมือนกัน

ต่อมาที่ประเทศอังกฤษก็ได้มีวัดไทยเกิดขึ้น นัยว่าเป็นวัดไทยในยุคแรกที่เกิดขึ้นยุโรป ทั้งๆที่ตอนนั้นหลวงพ่อชา สุภัทโท พูดภาษาอังกฤษได้เพียงสามคำ

เมื่อผมอ่านจบแล้ว

ผมก็ยังไม่รู้ว่า “ตายแล้ววิญญาณไปไหน? อ่านแล้วก็ไม่ได้มีความรู้เพิ่มเติมมาประดับสติปัญญาแม้แต่เพียงน้อยนิด

ผมเชื่อว่าผู้อ่านก็ไม่ได้เกิดความเข้าใจในเรื่องนรก-สวรรค์แต่ประการใด  ได้แค่เสียเวลาอ่านบทความของพุทธวิชาการฝ่ายพระสงฆ์ไปอีกบทความหนึ่งเท่านั้น

เป็นอันที่น่าสงสัยจริงๆ ว่า

พระมหาบุญไทยเอง ท่านเชื่อว่า นรก-สวรรค์มีจริงๆ หรือเปล่า

การนำคำพูดของหลวงพ่อชามาเป็นตัวอย่างนั้น พระมหาบุญไทยพยายามบอกใบ้ผู้อ่านว่า คนที่เชื่อว่านรก-สวรรค์มีจริงเป็นคนโง่

และท่านไม่ค่อยพอใจที่คนมาถามท่านในเรื่องเหล่านี้หรือ..

ถ้าใช้มาตรฐานของผมเป็นคนตัดสินบทความนี้  ผมขอบอกเลยว่า “ไม่เขียนเสียดีกว่า”  เสียเวลาโดยสิ้นเชิงทั้งคนอ่านและคนเขียน




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น