บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

พระมหาบุญไทย ปุญญมโน[03]

เมื่อผมวิพากษ์วิจารณ์บทความเรื่อง "ตายแล้ววิญญาณไปไหน" ของพระมหาบุญไทย  ปุญญมโน ใน gotoknow นั้น มีผู้มาให้ความเห็นกันพอสมควร เมื่อผมจะลบบทความนี้ใน gotoknow จึงจะนำข้อโต้แย้งดังกล่าวมาเก็บไว้ ณ ที่นี้ด้วย

คุณหนานเกียรติ (18 พฤษภาคม 2554 12:52) ได้เข้ามาให้กำลังใจเป็นคนแรก ดังนี้

สวัสดีครับอาจารย์

ตามอ่านมานานแล้วครับ ภูมิรู้ภูมิธรรมไม่ถึงขั้นที่จะแลกเปลี่ยนด้วย แต่ก็ชอบอ่านครับ บางบันทึกอ่านตามไปดูถึงการแสดงความคิดเห็น "มันส์จริง ๆ" ครับ

เข้ามาบอกว่าเป็นแฟนที่ติดตามอ่านบันทึกมาโดยตลอดครับ...

ผมตอบคุณหนานเกียรติไปดังนี้ (18 พฤษภาคม 2554 14:30)

ขอบคุณ คุณหนานเกียรติ

ผมกำลังต่อสู้กับพุทธวิชาการ ที่ไม่เชื่อพระไตรปิฎก แต่ไปเชื่อวิทยาศาสตร์กับปรัชญาตะวันตก เพื่อที่จะให้พุทธศาสนิกชนในประเทศเรา หันกลับปฏิบัติธรรมกันอย่างเป็นปกติ

เพื่อเปลี่ยนแปลงคนจำนวนหนึ่งในสังคม ที่ไม่เชื่อเรื่องบุญ-บาป นรก-สวรรค์เพราะไปเชื่อตามพุทธวิชาการ ได้คิดว่าที่เชื่อไปอย่างนั้น มันผิดหรือมันถูก

พวกนี้ ส่วนใหญ่รู้ผิดรู้ถูกเมื่อตายไปแล้ว มันเป็นผลเสียต่อประเทศชาติ สังคม และตัวของบุคคลผู้นั้นเองด้วย

ผมต้องการให้กลุ่มบุคคลพวกนั้น รู้และเห็น บุญ-บาป, นรก-สวรรค์, ความดี-ความชั่วทั้งๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่  โปรดติดตามต่อไป

ต่อมา คุณฉลาดสุดๆ [IP: 180.183.167.65] 18 พฤษภาคม 2554 17:14 ได้เข้ามาให้ความเห็น ดังนี้

พุทธวิชาการ ท่านก็บอกว่า ที่เห็น นรก สวรรค์ ก็ไม่ต่างอะไรกับการถูกหลอก ถูกบังคับจิตให้เห็น

ท่านก็ไม่ให้เชื่ออยู่ดี ไม่ว่าใช้วิชาธรรมกายไปเห็นนรกสวรรค์ ก็เชื่อไม่ได้ จะรู้ได้ไงว่ากำลังถูกหลอกอยู่

มันก็ลงที่ว่า หลอกได้อยากแนบเนียนอยู่ดี จริงมั้ยครับ doc

นานๆ จะเจอคนฉลาดสักที ผมเลยตอบไป ดังนี้ (18 พฤษภาคม 2554 17:42)

ที่ว่า "ฉลาดสุดๆ" นี่ ใครเป็นคนบอกคุณ

พุทธวิชาการ ท่านก็บอกว่า ที่เห็น นรก สวรรค์ ก็ไม่ต่างอะไรกับการถูกหลอก ถูกบังคับจิตให้เห็น ท่านก็ไม่ให้เชื่ออยู่ดี

ในการปฏิบัติธรรมตามสายวิชาธรรมกายนี่ ผู้ปฏิบัติเขามีสติดีพอสมควร  มันไม่เหมือนการฝันนะคุณ  เด็กบางคนปวดขา เขาก็นวดขาไป ปฏิบัติไป

ผู้สอนหรือวิทยากรนี่ ไม่สามารถจะไปหลอกผู้ปฏิบัติได้ อย่างที่คนฉลาดสุดๆ ในบ้านของคุณคิด

แล้วการ "บังคับจิต" นี่ผมตอบไปครั้งหนึ่งแล้ว ในบันทึกของผมว่า  ผมไม่เคยพบเคยเห็นว่า มันเป็นไปอย่างไร

มันจะมีหรือในโลกนี่ที่ "บังคับจิต" กันได้  เคยเห็นแต่ "ยั่ว" ให้โมโห ซึ่งไม่ใช่การบังคับจิต อันนี้ผมรู้ เพราะ ทำบ่อย

สำหรับเรื่องเชื่อหรือไม่เชื่อเรื่องนรก-สวรรค์นี่  คุณเอามาเขียนทำไม ผมไม่ได้เดือดร้อนเลยกับพวกที่ไม่เชื่อ

ก็ตัวของเขา เขาจะเลือกไปทำนองไหน เขาก็รับผิดชอบตัวของเขาเอง  ผมมาเขียนเสนอแนะความคิดความเห็นให้คนอ่านที่เขาเชื่อผมอ่านกัน

คนโง่ๆ ที่มาอ่านแล้ว ไม่เชื่อ  ผมจะไปเดือดร้อนอะไร

ไม่ว่าใช้วิชาธรรมกายไปเห็นนรกสวรรค์ ก็เชื่อไม่ได้ จะรู้ได้ไงว่ากำลังถูกหลอกอยู่ มันก็ลงที่ว่า หลอกได้อยากแนบเนียนอยู่ดี จริงมั้ยครับ doc

ตรงนี้ คนที่ฉลาดที่สุดในบ้านของคุณอย่างคุณ ผมขอยืนยันว่า นอกบ้านของคุณออกมา คุณโง่สุดๆ เข้าไปแล้ว

พอเข้าเขตบ้านของคุณไป  คุณฉลาดสุดแน่ๆ ผมรับรอง  รับรองผ่านการตั้งชื่อของคุณ  แต่เมื่อพ้นเขตบ้านของคุณออกมา

คุณนี่โง่สุดๆ ตั้งแต่ปากซอย กลางซอย ท้ายซอย หัวถนน กลางถนน ท้ายถนนเลยทีเดียว  อาณาเขตอาจจะลามเข้าไปในตัวอำเภอ จังหวัด หรือภาคเลยก็ได้

หลักฐานก็คือ คุณจะไปรู้แทนผู้ปฏิบัติธรรมตามสายวิชาธรรมกายได้อย่างไร ผู้ปฏิบัติเอง เขารู้ เขาเห็นของเขา

คุณจะทะลึ่งไปรู้กับเขาได้อย่างไร

คุณฉลาดสุดๆ [IP: 125.27.175.72] 19 พฤษภาคม 2554 12:25 คงจะเกิดอาการสั่นสุดๆ จากความโมโห พิมพ์เข้ามาใหม่ ยาวกว่าเดิม ดังนี้

ผมจะบอกเพื่อเป็นวิทยาทานให้ก็แล้วกันนะครับ พุทธวิชาการท่านเชื่อว่า นรกสวรรค์มีจริงครับ นรก สวรรค์ ชาตินี้ ชาติหน้ามีจริงทั้งหมดครับ

ดังนั้นจึงมีคนที่บวชเป็นพระ เพื่อที่จะหลุดพ้นจากวัฏสงสารนี้ไปให้จงได้ ไม่เช่นนั้นพุทธวิชาการตามที่ท่านว่าจะบวชไปเพื่ออะไร ก็เพื่อสิ่งนี้ เพื่อความหลุดพ้น

แต่เนื่องด้วยการสอนพุทธศาสนา เป็นสิ่งที่ยาก และลึกซึ้ง พระพุทธเจ้าท่านถึงบอกตอนที่ตรัสรู้ใหม่ๆ ว่า สอนยากจะสอนดีหรือไม่สอนดี สำหรับปุถุชนที่ยังเต็มอัดไปด้วยกิเลส และยึดติดในตัวตน หรือจะว่าตัวกูของกูก็ได้

แต่ที่พุทธวิชาการท่านพูดในเชิงที่ว่า นรกสวรรค์ไม่มีนั้น เพราะว่าท่านจะเน้นไปในส่วนของการบรรลุโลกุตระ

สำหรับผู้ที่ต้องการระดับโลกุตระเท่านั้น เพราะเรื่องเกี่ยวกับตัวตน ผู้ต้องไปเกิดในสวรรค์นรก นั้นมีสอนเยอะอยู่แล้ว มากมายเหลือคณานับ

ดังนั้นการสอน นรก สวรรค์ไม่มี จึงไม่มีผลต่อสังคมมาก แต่มีผลสำหรับผู้ที่ต้องการบรรลุระดับโลกุตระเท่านั้น พวกที่ระดับภูมิธรรมยังไม่ดีพอก็ขอให้มีตัวตนอย่างดีไปก่อน

ทำบุญทำทาน ผลบุญส่งผลชาตินี้ชาติโน้นนี่ก็จริงสำหรับผู้ที่ไม่บรรลุ

แต่ในการบรรลุนั้น เราจะต้องเข้าถึงสภาพที่เป็นอสังขตะคือไม่มีการปรุงแต่ง และไม่ให้มีตัวตนเกิดขึ้น ดับตัวตนได้ก็ไม่มีผู้เวียนว่าย

ถ้าจิตสำคัญผิดคิดว่ามีตัวตน จะเข้าถึงความว่าง หรือ สุญญตา หรือนิพพานไม่ได้ ถ้ามีตัวตนก็ว่างไม่ได้ ถ้าติดที่สวรรค์ ก็ว่างไม่ได้ ติดบุญก็ว่างไม่ได้ ติดบาปก็ว่างไม่ได้ เป็นต้น

การจะเข้าใจนิพพานนั้น พระพุทธเจ้าผู้เปี่ยมไปด้วยปัญญาบารมีท่านยังถึงกับไม่สามารถบอกสภาวะนิพพานได้ว่าคือสิ่งนั้นนะ เพราะภาษามนุษย์เปรียบเทียบไม่ได้ ท่านจึงว่าไม่ใช่สิ่งนั้น ไม่ใช่สิ่งนี้ แต่สถานที่นั้นมีอยู่ท่านยืนยันว่ามีอยู่ มันยากถึงขนาดนั้น

การจะพูดว่านรกสวรรค์มีนั้นก็ถูกต้อง แท้จริง เพราะเข้าถึงชีวิตปลอม การจะพูดว่านรกสวรรค์ไม่มีนั้นก็ถูกต้อง แท้จริง เพราะเข้าถึงชีวิตจริง

ผมได้ตอบความเห็นไป ดังนี้ (19 พฤษภาคม 2554 13:49)

เรียน คุณฉลาดสุดในบ้านของคุณ

หลักฐานทางวิชาการของคุณอยู่ที่ไหนล่ะ คุณจะมาเขียนลอยๆ เพ้อเจ้อไปตามอารมณ์ได้อย่างไร ที่นี่เขาต้องการหลักฐานด้วย

โง่ก็อยู่ส่วนโง่เถิด... คุณอ่านบันทึกของผมให้ทั่วๆ ก่อน กี่คนมาแล้วที่เข้ามาแบบโง่ๆ เช่นคุณ  ตอนนี้ก็เห็นกลับไปเลียแผลอยู่ ยังไม่โผล่ศีรษะมาให้เห็นอีกเลย

ต่อมาเป็นคิวของฝ่ายสนับสนุนบ้าง คุณ [IP: 124.120.29.75] 21 พฤษภาคม 2554 19:41 เข้ามาให้ความเห็น ดังนี้

ชอบอ่านบทความของ ดร มากครับ อ่านแล้วบางอย่างเห็นภาพได้ชัดเจนครับ ในใจลึกๆ ผมแต่ก่อนก็รู้สึกขัดแย้งกับพุทธวิชาการแต่ด้วยความไม่รู้ก็ไม่อาจแย้งได้ครับ

พอมารู้จักกับวิชา 18 กาย (โดยกลุ่มของคุณการุณย์) ทำให้เข้าใจ และตรงกับจริตของตัวเองมากครับ

ความสงสัยหลายๆ อย่างมันคลี่คลายด้วยตัวมันเอง บางทีอ่านบทความของ ดร แล้วรู้สึกเหมือนได้บารมีไปด้วยยังไงไม่รู้ ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่ผมชอบอ่านมากครับ

ผมได้ตอบความเห็นดังกล่าว ไปดังนี้ (22 พฤษภาคม 2554 20:42)

คุณอ่านบทความผม ไม่แน่ใจว่าคุณจะได้บารมีหรือเปล่า แต่ยืนยันแน่นอนว่า ถ้าคุณอ่านหนังสือของหลวงพ่อวัดปากน้ำ กับหนังสือของคุณลุง คุณได้บารมีแน่นอน

พระสมณโคดมให้บารมีแน่นอน

ถ้าสงสัยก็เรียนวิชา 18 กาย แล้วไปถามพระองค์เองเลย...




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น