บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

วิญญาณคืออะไร[02]



กลับไปวิพากษ์วิจารณ์คำตอบของคุณสุชีพ ปุญญานุภาพต่อ

เรารู้อยู่แล้วว่า ร่างกายของเรามี 2 ส่วนคือ รูปกับนาม กายกับวิญญาณ/จิต/ใจ

ตัว นามหรือ วิญญาณ/จิต/ใจนี้  พุทธทั่วไป ซึ่งหมายถึง พุทธศาสนิกชนทั่วๆ ไป ที่ไม่ใช่พุทธวิชาการหรือพุทธปฏิบัติธรรม จะเรียกกันว่า วิญญาณหรือดวงวิญญาณ

วิญญาณหรือดวงวิญญาณนี้  เมื่อเราตายจากชาตินี้ ดวงวิญญาณก็จะไปตามบุญกรรมที่สร้างไว้ อาจจะไปเกิดเป็น คน สัตว์ เทวดา ฯลฯ  ก่อนที่จะไปเกิดนั้น  ก็ต้องไปเป็น ผีเสียก่อน

ด้วยเหตุใดไม่ทราบ บางครั้งคนที่ตายไปแล้ว ดวงวิญญาณยังไม่ไปเกิดตามระบบบุญกรรมที่ได้กล่าวไปแล้ว  แต่ยังสามารถเป็น ผีไปหลอกหลอนคนได้  ไปเข้าสิงสู่ในร่างกายของคนอื่นได้

คนที่ถามเขาต้องการรู้ว่า

ดวงวิญญาณของอีกคนหนึ่ง สามารถไปสิงสู่ร่างกายของอีกคนหนึ่งได้หรือไม่?

ในทางวิชาธรรมกายนั้น  เรื่องดังกล่าวทำได้  และมีการทำอยู่จนเป็นปกติธรรมดาของมนุษย์ในโลกนี้  รวมถึงสัตว์ก็ถูกสิงได้

ถ้ายึดคำตอบของคุณสุชีพที่ยกเนื้อความของพระไตรปิฎกมา ก็แสดงว่า พระภิกษุ หรือพรหมก็ยังถูกวิญญาณของผู้อื่นเข้ามาสิ่งได้เช่นเดียวกัน

ดวงวิญญาณของคนอื่นจะเข้าไปสิงสู่ในร่างกายของคน/สัตว์/พระ/พรหมของคนอื่นๆ ได้อย่างไร?

ในทางวิชาธรรมกายนั้น  ร่างกายของเรามี 18 กายหลัก  ดังนี้ กายมนุษย์ กายทิพย์ กายพรหม กายอรูปพรหม กายธรรมโคตรภู กายธรรมพระโสดา กายธรรมพระสกิทาคามี กายธรรมพระอนาคามี และกายธรรมพระอรหัต




กายต่างๆ ที่เขียนไปนั้น มี 9 กาย  แต่ละกายจะมีกายหยาบและการละเอียด จึงรวมเป็น 18 กาย

กายแต่ละกายทั้ง 18 กายจะประกอบไปด้วย รูปกับนาม หรือกายกับวิญญาณ/จิต/ใจทั้งนั้น  กายกับวิญญาณ/จิต/ใจแยกออกจากกันไม่ได้

การที่พุทธปฏิบัติธรรมสายอื่นๆ เช่น ดร. สนอง วรอุไร ปฏิบัติธรรมจนกายทิพย์ออกไปจากกายมนุษย์หยาบ เห็นกายมนุษย์หยาบยังนั่งสมาธิอยู่ แล้วคิดว่าไป วิญญาณ ของตนออกไปนั้น เป็นความเข้าใจผิด



กายที่หลุดออกไปคือ กายทิพย์  มีทั้งรูปและนาม คือ ทั้ง กายกับวิญญาณ/จิต/ใจ ออกไปด้วยกัน แต่สายปฏิบัติธรรมอื่นๆ ไม่มีความรู้ในเรื่องนี้ จึงคิดว่า วิญญาณ/จิต/ใจ สามารถหลุดออกจากกายไปได้

ยังมีคำอธิบายให้สลับซับซ้อนขึ้นอีกว่า ระหว่างที่ดวงวิญญาณออกไปนั้น มีสายใยสีขาว ละเอียดและยาวมาก เชื่อมระหว่างดวงวิญญาณกับกายไว้

ว่ากันเข้าไปถึงนั่น  สายที่ว่านั้น ไม่มีหรอก……….

คนที่ตายไปแล้วนั้น ไม่ใช่ว่า ดวงวิญญาณ ออกไปหาที่เกิดใหม่

 อันนั้นเป็นความเข้าใจผิดของพุทธทั่วไป  ขนาดพุทธวิชาการยังเข้าใจผิดได้  นับประสาอะไรกับพุทธทั่วไป

คนที่ตายไปนั้น เป็นเพราะกายมนุษย์หยาบมันหมดสภาพแล้ว สภาวะร่างกายมันล้มเหลวหมดแล้ว  กายอื่นๆ อีก 17 กาย ก็อาศัยอยู่ในกายมนุษย์หยาบไม่ได้แล้ว

กายที่หลุดออกไปก็คือ กายทั้ง 17 กายนั้น  ไม่ใช่ดวงวิญญาณของกายมนุษย์หยาบ

กายทั้ง 18 กายนั้น เขาจะซ้อนกันอยู่  เนื่องจากกายทั้ง 18 กายมีความหยาบละเอียดต่างกัน กายข้างในก็จะซ้อนอยู่กับกายข้างนอก

เมื่อกายมนุษย์หยาบตาย  กายมนุษย์ละเอียดก็จะรับหน้าที่แทน

กายมนุษย์ละเอียดจึงออกจากกายหยาบไป กายอื่นๆ อีก 16 กายก็ซ้อนอยู่ในกายมนุษย์ละเอียด

กายมนุษย์ละเอียดนั้น เราเห็นกันเป็นประจำ  แต่เราไม่เข้าใจเอง  กายมนุษย์ละเอียดก็กายที่เราฝันนั่นเอง

ขอเล่าประสบการณ์ของวิทยาการบางท่านให้ฟังเพื่อเป็นตัวอย่าง

วิทยาการท่านนี้ ท่านจบปริญญาโท และทำงานเป็นผู้จัดการของบริษัทในเครือปูนซิเมนต์ไทย  ยังมีชีวิตอยู่  อยากจะสัมภาษณ์พูดคุยเมื่อไหร่ก็ได้

วิทยาการท่านนี้ ท่านเป็นคนขี้สงสัยมากๆ  จึงพยายามตรวจสอบการปฏิบัติธรรมทางสายวิชาธรรมกายเสมอๆ

ญาติท่านตายไปหลายคน  ท่านก็ตรวจสอบอยู่เป็นประจำ

คนที่ตายไปแล้ว ยังไม่ไปเกิดในทันที  กายมนุษย์ละเอียดของเขาจะเฝ้ากายมนุษย์หยาบที่อยู่ในโลง กายหยาบของท่านถูกหามไปไหน  กายละเอียดก็ตามไปด้วย ว่าอย่างนั้นเถอะ

ท่านผู้นี้เล่าให้ฟังว่า ตอนที่พ่อท่านตาย  ท่านก็ยังคุยกับกายมนุษย์ละเอียดของพ่อท่านได้  ท่านเล่าให้ฟังว่า เมื่อลูกๆ เผากายมนุษย์หยาบ  บิดาของท่านด่า ไม่มีชิ้นดี  ว่าเผาท่านทำไม

วิทยาการท่านนี้ ท่านต้องอธิบายแทบจะตายไปด้วยเลยว่า พ่อตายไปแล้ว เขาก็ต้องเผาพ่ออย่างนี้แหละ

วิทยากรท่านนี้ สอนพ่อด้วยวิชชาธรรมกายไปด้วย  คนตายไปแล้วสอนวิชชาธรรมกายง่ายกว่าสอนคนที่ยังมีชีวิตอยู่

ท่าน เล่าว่า กายมนุษย์ละเอียดของพ่อท่าน จะใสขึ้นเรื่อยๆ อายุน้อยลงเรื่อยๆ  จนกระทั่งอายุดูราวๆ 17-18 ปี  กายมนุษย์ละเอียดก็เปลี่ยนเป็นกายทิพย์ และขึ้นไปอยู่บนสวรรค์

ท่านยังเล่าอีกว่า เมื่อพี่สาวท่านตาย ท่านมีประสบการณ์มาแล้ว  ท่านจึงบอกพี่สาวตลอดเวลาในงานศพว่า  เดี๋ยวเขาจะเผาเจ๊นะ  แล้วก็อธิบายเหตุผลประกอบไป

งานนี้ ผ่านไปด้วยดี เจ๊ของท่านวิทยากร เข้าใจดี  ไม่มีการด่าคนเผา ตอนนี้ก็ไปอยู่บนสวรรค์

วันดีคืนดี ท่านก็มาเยี่ยมบ้านเดิมบ้าง แต่ไม่ได้บ่อยนัก ไม่ได้มาให้เห็นด้วยตาของกายมนุษย์หยาบ เป็นการตรวจสอบพบด้วยวิชชาธรรมกาย

การที่ดวงวิญญาณ/จิต/ใจของคนหนึ่งจะมาเข้าไปสิงสู่ร่างกายคนอื่นนั้น ทำได้

โดยนำเอากายมนุษย์ละเอียดของคนที่จะไปเข้าสิงนั้น  เข้าไปอยู่ในร่างกายของอีกคนหนึ่ง  สามารถทำได้ [การเข้าไปมีคำอธิบายในทางวิชาธรรมกาย แต่เห็นว่าเป็นเรื่องลึกไป เอาไว้อธิบายในบทความที่เกี่ยวข้อง]

เมื่อเข้าไปแล้ว ก็เอา เห็น จำ คิด รู้ของคนที่เข้าไปสิง ซ้อนกับ เห็น จำ คิด รู้ ของคนที่ถูกสิง รวมถึงสัตว์ พระภิกษุ พรหม ฯลฯ

ผลที่เกิดขึ้นก็คือ คนที่ถูกสิงจะพูด จะทำอะไรไปตามการบังคับของคนที่สิงเข้าไป

การเข้าทรง (ถ้าไม่หลอกเอาเงิน)  การถูกผีเข้า  อยู่ดีๆ นิสัยเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังเท้า ฯลฯ พวกนี้ถูกสิงทั้งสิ้น แต่จะถูกสิงด้วย สิ่งใดนั้น  ต้องศึกษาวิชชาธรรมกายในขั้นสูง จึงจะเข้าใจ

โดยสรุป กายของมนุษย์มี 18 กาย แต่ละกายจะประกอบไปด้วยกายกับดวงวิญญาณ/ใจ/จิต ทั้ง 2 ส่วนนี้แยกออกจากกันไม่ได้

การตายเกิดจากกายมนุษย์หยาบหมดประสิทธิภาพ ไม่สามารถคงความเป็นกายมนุษย์ไว้ได้  กายละเอียดอื่นๆ จึงเข้าไปซ้อนอยู่ในกายมนุษย์ละเอียดหรือกายฝัน

กายมนุษย์ละเอียดหรือกายฝันนั้น จึงไปตามดวงบุญดวงบารมีที่สร้างไว้

กายมนุษย์ละเอียดหรือกายฝันไม่ได้มีประเภทเดียว คือ ของพวกพระหรือของพวกเราๆ อย่างเดียว ยังมีของพวกมารอีกมากมายมหาศาล  กายมนุษย์ละเอียดหรือกายฝันก็มีวัตถุประสงค์ของแต่ละกาย

บางท่านหิว ไม่ได้กินอาหารใดๆ มาเป็นเวลานานแสนนาน  เมื่อเห็นว่ามนุษย์บางท่านมีจิตใจอ่อนแอ จึงเข้าไปสิงสู่เพื่อหาอาหารกินบ้าง

บางท่านต้องการทำความชั่ว เนื่องจากเป็นมาร การกระทำความชั่วเป็นหน้าที่ของท่าน ก็เข้าไปสิงสู่ร่างของคนอื่นเพื่อทำความชั่วตามวัตถุประสงค์

การที่ดวงวิญญาณของคนหนึ่งจะไปสิงสู่ร่างกายของคนอื่นนั้น ทำได้จริง แต่ไม่ได้ไปเฉพาะดวงวิญญาณ ไปทั้งกายกับดวงวิญญาณ แต่เป็นกายละเอียด




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น